แนะนำ วิธีดูไพ่ บาคาร่า แบบมืออาชีพ

แนะนำ วิธีดูไพ่ เค้าไพ่หมายถึง การทำนายผลของไพ่ในการเล่นบาคาร่า ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกำหนดผลการแข่งขันระหว่าง “ผู้เล่น” และ “แบงค์เกอร์” ในเกม บาคาร่า . ในแต่ละมือของเกม, ไพ่จะถูกสุ่มและแจกให้ผู้เล่นและแบงค์เกอร์ตามกฎและกติกาของบาคาร่า.

อ่านเรื่อง สอนวิธีเล่นบาคาร่าสำหรับมือใหม่ ได้ที่นี่

เค้าไพ่ที่แจกในแต่ละมือมีบทบาทสำคัญในการกำหนดคะแนนแต้มของมือและผลการแข่งขัน ในบาคาร่า, มีไพ่หลายชนิดซึ่งมีค่าแต้มต่าง ๆ ตามหมายเลขบนไพ่ และมีการคำนวณค่าแต้มด้วยการรวมค่าของไพ่ทั้งหมดในมือ โดยคำนวณตัวเลขหลักหน่วยของผลรวมนั้นเป็นคะแนนของมือนั้น ๆ

นี่คือค่าแต้มของไพ่บาคาร่า:

• ไพ่ 2 – 9: มีค่าแต้มเท่ากับหมายเลขบนไพ่ (2 มีค่า 2 แต้ม, 3 มีค่า 3 แต้ม, 4 มีค่า 4 แต้ม, ฯลฯ).
• ไพ่ 10, จากหมายเลข 10, ยู, คิง, และโค่: มีค่าแต้มเท่ากับ 0 แต้มในบาคาร่า.
• ไพ่เอซ: มีค่าแต้มเท่ากับ 1 แต้มในบาคาร่า.

การกำหนดผลการแข่งขันในบาคาร่าจะขึ้นอยู่กับผลรวมของแต้มของมือทั้งสองมือ มือที่มีคะแนนแต้มสูงสุดจะชนะเกม และในกรณีที่มือของผู้เล่นและมือของแบงค์เกอร์มีคะแนนเท่ากัน จะเกิดเหตุการณ์เสมอ (Tie) และไม่มีการชนะหรือแพ้.

เค้าไพ่เป็นส่วนสำคัญในบาคาร่าและใช้ในการกำหนดผลการเล่นของเกม.

แนะนำ วิธีดูไพ่ เค้าไพ่ มีกี่แบบ อะไรบ้าง ?

เค้าไพ่ในเกมบาคาร่ามีทั้งหมด 6 แบบ ดังนี้:

1. เค้าไพ่มังกร (Dragon): เค้าไพ่มังกรคือหนึ่งในแบบเค้าไพ่ที่มีค่าแต้มสูงสุดในเกม โดยมีค่าแต้มเท่ากับ 8 หรือ 9 แต้ม. ไพ่มังกรประกอบด้วยไพ่ 8 และ 9 ของหมายเลข 10, ยู, คิง, และโค่.
2. เค้าไพ่ปิงปอง (Panda): เค้าไพ่ปิงปองคือแบบเค้าไพ่ที่มีค่าแต้มสูงสุดหลังจากเค้าไพ่มังกร โดยมีค่าแต้มเท่ากับ 7 แต้ม. ไพ่ปิงปองประกอบด้วยไพ่ 7 ของหมายเลข 10, ยู, คิง, และโค่.
3. เค้าไพ่ลูกคู่ (Pair): เค้าไพ่ลูกคู่คือการมีความสัมพันธ์ระหว่างไพ่ 2 ใบในมือ โดยมี 3 แบบ คือ:
   • เค้าไพ่ลูกคู่ของผู้เล่น (Player Pair)
   • เค้าไพ่ลูกคู่ของแบงค์เกอร์ (Banker Pair)
   • เค้าไพ่ลูกคู่ทั้งสองของทั้งผู้เล่นและแบงค์เกอร์ (Both Pair)
4. เค้าไพ่ตัวติด (Tie): เค้าไพ่ตัวติดคือเค้าไพ่ที่ทั้งผู้เล่นและแบงค์เกอร์มีคะแนนเท่ากัน (เสมอ) และมีการจับคู่ไพ่.
5. เค้าไพ่ตัวหลุด (Natural): เค้าไพ่ตัวหลุดคือการมีคะแนนแต้มสูงสุดในเกมโดยไม่จำเป็นต้องรับไพ่เพิ่ม. เค้าไพ่ตัวหลุดประกอบด้วยไพ่ 8 และ 9 ของหมายเลข 10, ยู, คิง, และโค่.
6. เค้าไพ่ 2 ตัวติด (Natural 2 Cards): เค้าไพ่ 2 ตัวติดคือการมีคะแนนแต้มสูงสุดในเกมโดยไม่จำเป็นต้องรับไพ่เพิ่ม และมีการจับคู่ไพ่ แต่เป็นการจับคู่ของไพ่ลูกคู่เท่านั้น (เช่น ไพ่ลูกคู่ของผู้เล่นและแบงค์เกอร์เป็นไพ่ลูกคู่ หรือทั้งคู่จับได้ไพ่ลูกคู่).

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเค้าไพ่ บาคาร่า

เค้าไพ่ในบาคาร่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกำหนดผลการแข่งขันระหว่าง “ผู้เล่น” และ “แบงค์เกอร์” ในเกม โดยเค้าไพ่แต่ละใบมีค่าแต้มและการคำนวณค่าแต้มจะเป็นไปตามกฎกติกาของบาคาร่า นี่คือเกี่ยวกับเค้าไพ่ในบาคาร่า:

• ไพ่ 2 – 9: ไพ่หมายเลข 2 ถึง 9 มีค่าแต้มตามหมายเลขบนไพ่ (2 มีค่า 2 แต้ม, 3 มีค่า 3 แต้ม, 4 มีค่า 4 แต้ม, ฯลฯ) ตามแบบทั่วไปของการนับแต้ม.

• ไพ่ 10, จากหมายเลข 10, ยู, คิง, และโค่: ไพ่เหล่านี้มีค่าแต้มเท่ากับ 0 แต้มในบาคาร่า เพราะนับเหมือนกับไพ่ 10 แต้ม.

• ไพ่เอซ: ไพ่เอซมีค่าแต้มเท่ากับ 1 แต้มในบาคาร่า.

• การคำนวณค่าแต้ม: เพื่อคำนวณค่าแต้มของมือในบาคาร่า, คุณจะรวมค่าของไพ่ทั้งหมดในมือและหาตัวเลขหลักหน่วยของผลรวมนั้น ตัวอย่างเช่น, หากมือของคุณประกอบด้วยไพ่ 6 และ 7, ผลรวมคือ 6 + 7 = 13 แต้ม และหากมือของคุณประกอบด้วยไพ่ 8 และ หมายเลข 9, ผลรวมคือ 8 + 9 = 17 แต้ม.

• การกดไพ่เพิ่ม: ในบาคาร่า, มือบาคาร่าอาจถูกกดไพ่เพิ่มได้ ในกรณีนี้, ไพ่เพิ่มจะถูกสุ่มออกมาและเพิ่มลงในมือตามกฎและเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ไม่มีการตัดไพ่เหมือนกับบาคาร่าในบาคาร่าแบบอื่น ๆ ที่มีการตัดไพ่.

• คะแนนและชนะเสมอ: มือที่มีคะแนนแต้มสูงสุดใกล้กับ 9 จะชนะเกม หากมือของผู้เล่นและมือของแบงค์เกอร์มีคะแนนเท่ากัน จะเกิดเหตุการณ์เสมอ (Tie) และผู้เล่นหรือแบงค์เกอร์ไม่จะชนะหรือแพ้.

กติการการจั่วไพ่

กติการการจั่วไพ่ในเกมบาคาร่ามีความเรียบง่ายและเป็นไปตามกฎและกติกาที่เป็นที่ยอมรับของเกมนี้ นี่คือกติการการจั่วไพ่ในบาคาร่า:

1. เริ่มต้นเกม:
   • เกมบาคาร่าเริ่มต้นเมื่อผู้เล่นทั้ง “ผู้เล่น” และ “แบงค์เกอร์” ที่นั่งที่โต๊ะทำการเดิมพันของพวกเขา.
2. การแจกไพ่:
   • เจ้ามือจะแจกไพ่ให้กับมือ “ผู้เล่น” และมือ “แบงค์เกอร์” ตามกฎและกติกาของเกม.
   • แต่ละมือจะได้รับไพ่สองใบ และการแจกไพ่จะประกาศผลเร็ว ๆ.
3. การคำนวณคะแนน:
   • คะแนนของมือจะคำนวณโดยการรวมคะแนนของไพ่ทั้งสองใบและตัดเลขหน่วยออก หากผลรวมเกิน 9 แต้ม, จะตัดเลขหน่วยออกเพื่อคำนวณคะแนน.
   • ตัวอย่าง: ไพ่ 6 และ 7 จะมีผลรวม 13 แต้ม, แต่คะแนนจริงคือ 3 แต้ม.
4. ผลการเล่น:
   • มือที่มีคะแนนแต้มสูงสุดจะชนะเกม.
   • มือ “ผู้เล่น” และมือ “แบงค์เกอร์” มีโอกาสชนะเท่า ๆ กัน แต่มือ “แบงค์เกอร์” จะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับคาสิโน.
5. เสมอ:
   • เสมอ (Tie) เกิดขึ้นเมื่อมือ “ผู้เล่น” และมือ “แบงค์เกอร์” มีคะแนนเท่ากัน.
   • เดิมพันเสมอจะได้รับการจ่ายเงินตามอัตราการจ่ายเงินที่กำหนด, แต่มือ “ผู้เล่น” และ “แบงค์เกอร์” จะไม่ได้รับการชำระเงิน.
6. การชำระเงิน:
   • เมื่อมือ “ผู้เล่น” ชนะ, เดิมพันในมือ “ผู้เล่น” จะได้รับการจ่าย 1:1 (ได้เงินคืนเท่ากับจำนวนเดิมพัน).
   • เมื่อมือ “แบงค์เกอร์” ชนะ, เดิมพันในมือ “แบงค์เกอร์” จะได้รับการจ่าย 1:1 ยกเว้นจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับคาสิโน (โดยทั่วไปเป็น 5% ของยอดเงินที่ชนะ).
   • เมื่อมือ “เสมอ” การเดิมพันเสมอจะได้รับการจ่ายตามอัตราการจ่ายเงินที่กำหนด (ตามกฎของคาสิโน).